简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:PPI หรือ Producer Price Index (ดัชนีราคาผู้ผลิต) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขายให้แก่ผู้บริโภค โดยเปรียบเทียบกับปีฐานที่กำหนด ดัชนีนี้ช่วยให้เราสามารถเห็นภาพรวมและวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินค้า ซึ่งมีผลต่อปัญหาเงินเฟ้อได้จากการเพิ่มขึ้นของค่าดัชนี
เนื่องในวันนี้มีข่าวเศษฐกิจอย่างข่าว PPI แอดเหยี่ยวจึงอยากจะมาให้ความรู้สำหรับมือใหม่ และเน้นย้ำสำหรับมือเก๋า ว่าตัวเลขของ PPI ส่งผลในแง่มุมไหนบ้างในตลาด Forex ซึ่งตัวเลขนี้จะช่วยให้นักเทรดเข้าใจถึงสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และช่วยให้วิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจในแง่มุมต่าง ๆ ได้ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย
PPI หรือ Producer Price Index (ดัชนีราคาผู้ผลิต) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขายให้แก่ผู้บริโภค โดยเปรียบเทียบกับปีฐานที่กำหนด ดัชนีนี้ช่วยให้เราสามารถเห็นภาพรวมและวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินค้า ซึ่งมีผลต่อปัญหาเงินเฟ้อได้จากการเพิ่มขึ้นของค่าดัชนี
Producer Price Index (PPI) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
PPI : ดัชนีราคาผู้ผลิตที่รวมสินค้าทุกประเภท
Core PPI : ดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน
PPI ช่วยบอกอะไรับนักเทรด
การวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ: ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นได้ โดยการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสะท้อนถึงการปรับราคาสินค้าของผู้ผลิต ต้นทุนการผลิต และความต้องการซื้อขายในช่วงเวลานั้น
อัตราเงินเฟ้อในประเทศ: อัตราเงินเฟ้อมีความสัมพันธ์โดยตรงกับดัชนี PPI หากดัชนี PPI สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากผู้ผลิตมีการปรับราคาสินค้าที่สูงขึ้น อาจมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นหรือต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้น ทำให้เกิดเงินเฟ้อ
นโยบายทางการเงิน: ดัชนี PPI มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง หากดัชนี PPI ปรับตัวสูงขึ้น อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารกลางอาจใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดการใช้จ่ายและควบคุมเงินเฟ้อ ในทางกลับกัน หากดัชนี PPI ปรับตัวลดลง ธนาคารกลางอาจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ค่าเงินในประเทศ: ค่าเงินจะแข็งค่าหรืออ่อนค่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อัตราเงินเฟ้อ นโยบายทางการเงิน และสภาพเศรษฐกิจ ดัชนี PPI ช่วยให้นักเทรดวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น หากดัชนี PPI ปรับตัวสูงขึ้น แสดงว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัวและอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดนักลงทุน ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
แนวโน้มราคาสินค้า: ดัชนี PPI ช่วยให้นักเทรดวิเคราะห์แนวโน้มราคาสินค้าได้ หากดัชนี PPI สูงขึ้น ราคาสินค้ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น และหากดัชนีลดลง ราคาสินค้ามีแนวโน้มที่จะลดลง โดยการขึ้นลงของดัชนี PPI อาจได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ ต้นทุนการผลิต ค่าเงิน อุปสงค์และอุปทาน รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ
PPI คำนวณอย่างไร ?
การคำนวณดัชนี PPI สามารถคำนวณได้ด้วยสูตรนี้ครับ
P1 แทนด้วย ราคาเฉลี่ยของสินค้าในเดือนปัจจุบัน
P0 แทนด้วย ราคาเฉลี่ยของสินค้าในปีฐาน
Q แทนด้วย ปริมาณสินค้าในแต่ละปีฐาน หรือใช้สูตรอย่างง่ายในกรณีที่ไม่มีการคำนวณปริมาณสินค้า
PPI = (ราคาปีปัจจุบัน ÷ ราคาปีอ้างอิง) x 100
PPI มีผลอย่างไรในตลาด Forex
เราสามารถใช้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในการวิเคราะห์สถานการณ์เงินเฟ้อภายในประเทศได้ โดยเงินเฟ้อมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงิน สภาพเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาด Forex เกิดความผันผวนหรือเปลี่ยนแปลงได้ในลักษณะดังนี้:
PPI มีผลยังไงกับทอง?
ดัชนี PPI ช่วยบอกสภาพเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อจากราคาขายสินค้าของผู้ผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากตัวเลขดัชนีสูงขึ้นแสดงถึงเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จึงส่งผลให้ทองมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน
ขอบคุณจากThaiforexreview
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
WikiFX เปิดตัวโครงการ SkyLine Guide เพื่อจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ท้องถิ่นอย่างโปร่งใส โดยใช้ระบบประเมินหลายมิติและผู้เชี่ยวชาญ 100 คน สำหรับประเทศไทยปี 2024 หนึ่งในโบรกเกอร์ที่ถูกเลือกคือ XM ซึ่งฉลองครบรอบ 15 ปีด้วยการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความเสถียรและความเร็วการส่งคำสั่งไม่กี่มิลลิวินาที XM ยังเปิดตัวเครื่องมือเทรดขับเคลื่อนด้วย AI ต่อเนื่องจาก Copy Trading และ AI Index เพื่อช่วยนักลงทุนตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น SkyLine Guide ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Michelin Guide” แห่งวงการฟอเร็กซ์ และจะมีการประเมินรอบใหม่ในปี 2025
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้กล่าวถึง "พอร์ตแตก" ว่าไม่ใช่จุดจบของเส้นทางเทรด แต่คือบทเรียนสำคัญที่แม้แต่มือโปรก็เคยเจอ ผู้เขียนยกตัวอย่างเทรดเดอร์ระดับโลกที่เคยพลาด แต่กลับมายืนในตลาดได้ด้วยวินัย การเรียนรู้ และแผนการใหม่อย่างรอบคอบ ข้อสรุปคือ ความพลาดไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับการไม่ลุกขึ้นอย่างมีสติหลังจากพลาดต่างหาก.